2558-06-08

๓๒ ปัจจเวกขณ์องค์อุโบสถศีล

(หันทะ มะยัง อุโปสะถัฏฐังคะ ปัจจะเวกขะณะ ปาฐัง ภะฌามะ เส)
ขอเชิญ เราทั้งหลาย จงสวดพระบาลีว่าด้วยการพิจารณาองค์อุโบสถศีลเถิด


(องค์อุโบสถที่ ๑)

ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

ปาณาติปาตัง ปะหายะ
ท่านละการฆ่าสัตว์มีชีวิตแล้ว

ปาณาติปาตา ปะฏิวิระตา
เว้นขาดจากการฆ่าสัว์มีชีวิตแล้ว

นิหิตะทัณฑา นิหิตะสัตถา
ทิ้งเครื่องทุบตีแล้ว ทิ้งเครื่องศัสตราแล้ว

ลัชชี ทะยาปันนา
มีความละอายแก่บาป ถึงพร้อมแล้วด้วยความขวนขวายเพราะกรุณา

สัพพะปาณะภูตะหิตานุกัมปิโน วิหะรัตติ
เป็นผู้เฉยไม่ได้ในการเกื้อกูลแก่สัตว์มีชีวิตทั้งปวง


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิม้ญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

ปาณาติปาตัง ปะหายะ
ก็ละการฆ่าสัตว์มีชีวิตแล้ว

ปาณาติปาตา ปะฏิวิระโต(ระตา)
เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์มีชีวิตแล้ว

นิหิตะทัณโฑ(ทัณฑา) นิหิตะสัตโถ(สัตถา)
ทิ้งเครื่องทุบตีแล้ว ทิ้งเครื่องศัสตราแล้ว

ลัชชี(ลัชชินี) ทะยาปันโน(ปันนา)
มีความละอายแก่บาป ถึงพร้อมแล้วด้วยความขวนขวายเพราะกรุณา

สัพพะปาณะภูตะหิตานุกัมปี(กัมปินี) วิหะรามิ
เป็นผู้เฉยไม่ได้ในการเกื้อกูลแก่สัตว์มีชีวิตทั้งปวง

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๒)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

อะทินนาทานัง ปะหายะ
ท่านละการถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ให้แล้ว

อะทินนาทานา ปะฏิวิระตา
เว้นขาดจากการถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ให้แล้ว

ทินนาทายี ทินนะปาฏิกังขี
ถือเอาแต่สิ่งของที่เขาให้ มีความมุ่งหวังแต่สิ่งของที่เขาให้

อะเถเนนะ สุจิภูเตนะ อัตตะนา วิหะรันติ
มีตนเป็นครนไม่ขโมย มีตนเป็นคนสะอาด เป็นอยู่


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

อะทินนาทานัง ปะหายะ
ก็ละการถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ให้แล้ว

อะทินนาทานา ปะฏิวิระโต(ระตา)
เว้นขาดจากการถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ให้แล้ว

ทินนาทายี(ทายินี) ทินนะปาฏิกังขี(กังขินี)
ถือเอาแต่สิ่งของที่เขาให้ มีความมุ่งหวังแต่สิ่งของที่เขาให้

อะเถเนนะ สุจิภูเตนะ อัตตะนา วิหะรามิ
มีตนเป็นคนไม่ขโมย มีตนเป็นคนสะอาด เป็นอยู่

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๓)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

อะพ๎รห๎มะจะริยัง ปะหายะ
ท่านละความประพฤติอันมิใช่พรหมจรรย์เสียแล้ว

พ๎รห๎มะจารี อาราจารี
เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกลจากกามคุณ

วิระตา เมถุนา คามะธัมมา
เว้นจากการประพฤติของคนที่อยู่กันเป็นคู่ อันเป็นของสำหรับชาวบ้าน


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

อะพ๎รห๎มะจะริยัง ปะหายะ
ก็ละความประพฤติอันมิใช่พรหมจรรย์เสียแล้ว

พ๎รห๎มะจารี(จารินี) อาราจารี (จารินี)
เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติห่างไกลจากกามคุณ

วิระโต(ระตา) เมถุนา คามะธัมมา
เว้นจากการประพฤติชองคนที่อยู่กันเป็นคู่ อันเป็นของสำหรับชาวบ้านเสีย

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๔)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

มุสาวาทัง ปะหายะ
ท่านละการพูดเท็จแล้ว

มุสาวาทา ปะฏิวิระตา
เว้นขาดจากการพูดเท็จแล้ว

สัจจะวาทิโน สัจจะสันธา
เป็นผู้พูดแต่คำจริง ธำรงไว้ซึ่งความจริง

เฐตะ ปัจจะยิกา
เป็นผู้มีคำพูดเชื่อถือได้ เป็นผู้พูดมีเหตุผล

อะวิสังวาทะกา โลกัสสะ
ไม่เป็นคนลวงโลก


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

มุสาวาทัง ปะหายะ
ก็ละการพูดเท็จแล้ว

มุสาวาทา ปะฏิวิระโต(ระตา)
เว้นขาดจากการพูดเท็จแล้ว

สัจจะวาที(วาทินี) สัจจะสันโธ(สันธา)
เป็นผู้พูดแต่คำจริง ธำรงไว้ซึ่งความจริง

เฐโต(เฐตา) ปัจจะยิโก(ยิกา)
เป็นผู้มีคำพูดเชื่อถือได้ เป็นผู้พูดมีเหตุผล

อะวิสังวาทะโก(วาทิกา) โลกัสสะ
ไม่เป็นคนลวงโลก

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๕)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานัง ปะหายะ
ท่านละการเสพของเมา มีสุราและเมรัยเป็นต้น อันเป็นที่ตั้งของความประมาทแล้ว

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา ปะฏิวิระตา
เว้นขาดจากการเสพของเมา มีสุราและเมรัยเป็นต้น อันเป็นที่ตั้งของความประมาทแล้ว


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานัง ปะหายะ
ก็ละการเสพของเมา มีสุราและเมรัยเป็นต้น อันเป็นที่ตั้งของความประมาทแล้ว

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา ปะฏิวิระโต(ระตา)
เว้นขาดจากการเสพของเมา มีสุราและเมรัยเป็นต้น อันเป็นที่ตั้งของความประมาทแล้ว

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๖)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

เอกะภัตติกา
ท่านมีอาหารวันหนึ่งเพียงหนเดียว

รัตตูปะระตา
งดการบริโภคในราตรี

วิระตา วิกาละโภชะนา
เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

เอกะภัตติกา(ติกา)
ก็เป็นผู้มีอาหารวันหนึ่งเพียงหนเดียว

รัตตูปะระโต(ระตา)
งดการบริโภคในราตรี

วิระโต(ระตา) วิกาละโภชะนา
เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๗)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

นัจจะ คิตะ วาทิตะ วิสูกะ ทัสสะนะ มาลา คันธะ วิเลปะนะ ธาราณะ มัฌฑะนะ วิภูสะนัฏฐนา ปะฏิวิระตา
ท่านเป็นผู้เว้นขาดแล้ว จากการฟ้อนรำ การขับเพลง การดนตรี การดูการเล่นชนิดเป็นข้าศึกต่อกุศล การทัดทรงสวมใส่ การประดับ การตกแต่งตน ด้วยพวงมาลา ด้วยเครื่องกลิ่นและเครื่องผัดทา

อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

นัจจะ คิตะ วาทิตะ วิสูกะ ทัสสะนะ มาลา คันธะ วิเลปะนะ ธาราณะ มัฌฑะนะ วิภูสะนัฏฐนา ปะฏิวิระโต(ระตา)
ก็เป็นผู้เว้นขาดแล้ว จากการฟ้อนรำ การขับเพลง การดนตรี การดูการเล่นชนิดเป็นข้าศึกต่อกุศล การทัดทรงสวมใส่ การประดับ การตกแต่งตน ด้วยพวงมาลา ด้วยเครื่องกลิ่นและเครื่องผัดทา

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยูแล้ว

<<<<<>>>>>

(องค์อุโบสถที่ ๘)
ยาวะชีวัง อะระหันโต
จำเดิมแต่ต้นจนตลอดชีวิต พระอรหันต์ทั้งหลาย

อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนัง ปะหายะ
ท่านละการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ่แล้ว

อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนัง ปะฏิวิระตา
เว้นขาดจากการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ่แล้ว

นีจะเสยนัง กัปเปนติ มัญจะเก วาติณะสันถะระเก วา
ย่อมสำเร็จการนอนบนที่นอนอันต่ำ บนเตียงน้อย หรือบนเครื่องลาดอันทำด้วยหญ้า


อะหัมปัชชะ อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง
แม้เราในวันนี้ ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่งนี้

อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนัง ปะหายะ
ก็ละการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ่แล้ว

อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนัง ปะฏิวิระโต(ระตา)
เว้นขาดจากการนอนบนที่นอนสูง และที่นอนใหญ่แล้ว

นีจะเสยนัง กัปเปนติ มัญจะเก วาติณะสันถะระเก วา
ย่อมสำเร็จการนอนบนที่นอนอันต่ำ บนเตียงน้อย หรือบนเครื่องลาดอันทำด้วยหญ้า

อิมินาปิ อังเคนะ อะระหะตัง อะนุกะโรมิ
เราทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยองค์แห่งอุโบสถแม้นี้

อุโปสะโถ จะ เม อุปะวุตโถ ภะวิสสะติ
และอุโบสถจักเป็นอันเราเข้าอยูแล้ว

<<<<<>>>>>

เอวัง อุปะวุตโถ โข ภิกขะเว อัฏฐังคะสะมันนาคะโต อุโปสะโถ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุโบสถอันเประกอบด้วยองค์แปด ที่อริยสาวกเข้าอยู่แล้ว ด้วยอาการอย่างนี้

มะหัปผะโล โหติ มะหานิ สังโส
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงฆ์ใหญ่ 

มะหาชุติโก มะหาวิปผาโร
มีความรุ่งเรืองใหญ่ มีความแผ่ไพศาลใหญ่

อิติ
ด้วยประการฉะนี้แล